วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

การเลี้ยงไก่ แบบพอเพียง พึ่งตนเอง

การเลี้ยงไก่ไข่

การเลี้ยงไก่ไข่ไว้่สำหรับลดรายจ่ายของครอบครัว
เมื่อเราตั้งเป้าหมาย แล้วว่าจะเลี้ยงไก่ไข่
ขั้นตอนต่อไปก็คือการวางแผน การเลี้ยง (ขงเบ้ง กว่าว่า รู้เขา รู้เรา รบสิบครั้งชนะสิบครั้ง)





1.เริ่มศึกษาการเลี้ยงไก่ไข่ หาข้อมูลให้ได้มากที่สุด และศึกษาจุดคุ้มทุน
ในที่นี้ผมศึกษาดูแล้วสามารถหาจุดคุ้มทุนได้ จะอธิบายให้ฟังภายหลังนะครับ ทฤษฏีเยอะพอสมควร2 วางแผนการเลี้ยงโดยเริ่มจา การสรรหาไก่ไข่ สร้างกรงไก่ หรือคอกไก่ ประเมิณราคา การกำจัดกลิ่น สิ่งแวดล้อมการเป็นอยู่ของไก่ โรคของไก่
เมื่อวางแผนเสร็จ ผมก็เริ่มยึดจุดยุทธศาสตร์ โดยการวางผังโรงไก่ วิเคราห์ เรื่องกลิ่นและการกำจัดกลิ่นด้วย
แล้วก็ออกแบบ โรงไก่ไข่ (ใช้เวลานานพอสมควร ) ทุกอย่างอยู่ในหัว เมื่อทำเสร็จต้องเหมือนกับที่วางแผนไว้ เริ่มจาก
พื้นที่ว่างเปล่าไม่ได้ใช้ประโยชน์มานานแล้วต่อไปก็ปรับพื้น ตั้งเสาเพื่อทำโรงไก่ตามที่ออกแบบไว้

เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้วนะครับ ใช้พื้นที่น้อยครับ กว้าง 60 ซม. ยาว 2 เมตร

ส่วนพื้นเป็นตะแกรงนะครับ ทำให้เอียงพอใข่ไหลออกมาได้ ตะแกรงตาถี่ประมาณ 1 นิ้ว หาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง หรือร้านขายอุปกรณ์การเกษตร
หลังจกานั้นก็เอาไม้ไผ่ทำเป็นกรง ปิดหน้า ปิดหลัง ใส่หลังคา ผมใช้กระเบื้องเพราะราคาถูก พอกับหญ้าแฝกแต่อายุการใช้งานนานกว่้า ใส่หลอดไฟให้มันด้วยครับ เพราะมันขี้กลัวมันจะตกใจ ไม่ใส่ก็ไม่เป็นไรครับ

เอา แสลนมาปิดกันลมกันฝน แค่นี้ก็เสร็จแล้วครับ กับโรงไก่ไข่ ใช้เวลาทำไม่นาน แต่ว่าใช้เวลาในการออกแบบ นานกว่าอีกนะครับ
และแล้วก็ได้ไก่ไว้ในกรงแล้วหละครับ น่ารักไหมครับ
คงสงสัยใช่ไหมทำไมไก่มันใหญ่เร็วจัง 555555.. ไม่ต้องสงสัยครับ ร้านเกษตร เค้ามีไก่สาวไว้ขายให้เกษตรกร ครับ เราไม่จำเป็นต้องซื้อลูกเจี๊ยบมาเลี้ยงให้มันโต เสียเวลาครับ บางทีอาจจะไม่โตก็ได้
เค้ามีำไก่สาว อายุประมาณ 18 สัปดาห์ ไว้ขายครับ ไก่อายุ 21 สัปดาห์มันจะเริ่มไข่ครับ ไม่ต้องกลัวว่าจะได้ไก่แก่ใกล้จะหมดไข่ไม่ใช่ครับ อย่างของผมอยู่ที่โคราชครับ ซื้อไก่ของ ซีพี ครับ มันมีของ สหฟาร์มด้วยแต่ว่าร้านจำหน่ายคนละร้านกันครับ ผมซื้อไก่ซีพี อาหารก็ซีพี ครับ

ต่อไปครับ เรื่องกลิ่นครับ ผมใช้แกลบ กลบขี้ไก่นะครับ มันจะไม่มีกลิ่นเลยครับ


และที่เห็นไก่จะอยู่ช่องใครช่องมันนะครับ เราจะไม่ปล่อยให้มันอยู่รวมกัน มันมีข้อเสียเยอะกว่าข้อดีนะครับ เหตุผลมีครับ คือ 1.เราสามารถรู้ได้ว่าไก่ตัวไหนไข่หรือไม่ไข่ 2.การจำกัดพื้นที่ของไก่จะทำให้ไก่ออกไข่ดีครับ เพราะว่ามันเกิดมาเพื่อ กิน นอน ปวดท้อง แล้วก็ไข่ ถ้ามันเดินมาก หรือเคลื่อนไหวมากจะทำให้ร้างกายมันสมบูรณ์ แข็งแรงดีเกินไป ไม่ปวดท้อง และก็จะไม่ไข่ 3. สามารถควบคุมอาหารได้ด้วยครับ เพราะว่า ไก่ 1ตัวจะกินอาหารประมาณ 70-90 กรัม ต่อวันนะครับ ถ้ากินมากกว่านี้จะทำให้ไก่อ้วน มันจะไม่ไข่นะครับ ถ้ามันได้กินอาหารเต็มที่ 4. ป้องกันไม่ให้มันจิกก้นกันนะครับ เมื่อมันออกไข่ไปนานๆ ถ้าปล่อยให้มันอยู่รวมกันมันจะจิกก้นกันนะครับ บางตัวโดนจิกก้นจนตายเลยนะครับ สรุปแล้ว กันกรงใครกรงมันดีกวาครับ

การเลี้ยงนะครับ
1. ให้อาหาร 70-90 กรัมต่อวันครับ ของผมเลี้ยง 6 ตัว ให้อาหารวันละ 5 ขีดครับ ค่าอาหารประมาณ 7 บาทครับ ให้เช้า กับเย็นครับ 2 เวลา คือ ตักมา 5 ขีด ให้เช้าครึ่งนึง เหลือครึ่งนึงให้ ตอนเย็นครับ .

2. ให้น้ำอย่าให้ขาดนะครับ ไก่กินอาหาร มันจะขาดน้ำไม่ได้เลยครับ และน้ำต้องผสม วิตามิน และยาแก้หวัดด้วยนะครับ ถามร้านขายไก่ดูครับ เค้ามีขายพร้อม ถ้าไม่มีวิตามินผสม กับน้ำ จะทำให้ไข่ไก่ไม่โตนะครับ

อย่างของผมซื้อไก่มาวันที่ 6 ม.ค ประมาณวันที่ 2 อาทิตย์ไก่ก็เริ่มไข่ให้ได้ดีใจแล้วครับ ประมาณ วันที่ 30 มค. มันก็ออกไข่ครบทุกตัว น่าภูมิใจมากครับ ทุกวันนี้ ได้ไข่วันละ 6 ฟอง กินวันละ 2- 4 ฟอง ที่เหลือก็ขายให้กับคนแถวบ้าน แล้วเอาเงินขายไ่ข่ไปซื้ออาหารไก่ ลงตัวพอดีครับ
ตอนนี้ผมลบคำที่ว่า เอาเงินค่าอาหารไก่ไปซื้อไข่กินดีกว่า ได้แล้วครับ ผมได้คำนวนแล้วได้คำตอบที่ว่า ถ้าเราเลี้ยงขายอาจจะได้กำไรน้อย ถ้าเลี้ยงขายอย่างน้อยต้อง ร้อยตัวขึ้้น นะครับถึงจะคุ้มต่อวัน และระยะคืนทุนก็นานพอควรครับ เกือบปีหละครับถึงจะได้ ค่าต้นทุนไก่ที่ซื้อมา
ส่วน การเลี้ยงเพื่อกิน พอเพียงอย่างว่าหนะครับ คือเอาไว้กิน เหลือก็ขายครับ คือเราจะคิดราคาที่เราไปซื้อไข่มากิน 10 ฟอง 30 บาท อยู่ได้ 3 วัน ครับ คิดอย่างนี้คุ้มสุดๆ เลยครับ และไม่น่าเชื่อว่า ที่เหลือจะสามารถขายได้แล้วเอาเงินที่ขายไ้้ด้ไปซื้ออาหารไก่ได้อีก คุ้มครับ ถ้าเราจัดการดีๆ อย่างที่ผมทำนะครับอยากให้ใครที่มีเวลา มีพื้นที่ ลองทำดูครับ ประหยัดรายจ่ายได้ดีมากๆๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น